วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2560

ไหว้พระ 9 ศาสนสถาน รับปีระกา

วันที่ 1 มค 60 เปิดปีใหม่ปีระกา โมพาคุณแม่ไปไหว้พระกราบสักการะเพื่อสิริมงคลรับปีระกา 
เมือครั้งปี 2556 ได้รับงานไหว้พระ 9 วัด รุ่นละ 100 คน 4 รุ่นจากระยอง โชคดีตลอดปี 
ปีนี้เลยถือโอกาสไหว้แต่ต้นปี แต่จำเป็นต้องเลือกวัดและศาสนสถานใหม่ เนื่องจากการจราจรปิดหลายเส้นทางไม่อำนวย แต่ก็ไม่ผิดหวัง ได้ครบทุกศาสนา จีน พุทธ พราหมณ์ 

จุดแรก  วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดสระเกศ)  เป็นวัดโบราณในสมัยอยุธยา เดิมเรียกว่า วัดสะแก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา เนื่องจากเคยประทับทำพิธีพระกระยาสนานเมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติใน พ.ศ. ๒๓๒๕

ในวัดจุดศูนย์กลางเลขที่ ศูนย์ กรมแผนที่ทหาร เป็นสะดือเมือง เป็นมงคล สะดือเมือง

มีแผ่นดวง และยันต์มหาลาภ สายสิญจน์ 
และปฎิทินมงคล ภาพในหลวงกับพระสังฆราชเสด็จเป็นการส่วนพระองค์  ณ วัดสระเกศ 

หลวงพ่อได้ให้เราผูกแผ่นดวงไว้ที่ศรีษะ และเดินขึ้นภูเขาทอง(บรมบรรพต) ร้อยกว่าขั้น โดยระหว่างทางก็ตีระฆังขึ้น ไป เอาดวงฝากบรรจุไว้ที่สะดือเมือง ชีวิตของเราจะได้ไม่ตกต่ำตามความเชื่อ เราได้ถวายผ้าไตร และเดินรอบเจดีย์ 3 รอบ  
หลังจากนั้นเข้าแถวลงไปชั้นล่าง เพื่อสักการะ  พระมหาเศรษฐีนวโกฎและเจดีย์น้อยพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุพระบรมสาริริกธาตุซึ่งได้จากกรุงกบิลพัสดุ์ สมัย ร.5 
ขณะเดินทางลง แวะสักการะหลวงพ่อโชคดี
จุดที่ีสอง  วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว ศูนย์กลางความศรัทธาไทย เป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เช่นเดียวกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา และมีพระราชประสงค์ให้เป็นที่ประดิษฐาน "พระแก้วมรกต" รวมถึงเป็นสถานที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล โดยเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส
พระแก้วมรกต ประดิษฐานในบุษบกทองคำ 
ถวายแจกันดอกไม้ บัวหลวง และอธิษฐานจิต และออกมาพรมน้ำมนต์ 
คติ  แก้วแหวน เงินทองไหลมาเทมาตลอดปี "
เห็นเด็กๆ น่ารักใส่ชุดไทยจิตรลดาอดขอถ่ายรูปไม่ได้ น้องๆ ร่าเริงพร้อมบอกกับเราว่า หนูชื่อ party ค่ะ 
จุดที่ 3 ศาลหลักเมืองสักการะหลักเมือง ไหว้พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เจ้าพ่อเจตคุปต์ พระเทพไชยศรี เจ้าพ่อหอกลอง ประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ ตามธรรมเนียมเพื่อความเป็นสิริมงคล
 คติ " ไหว้หลักเมือง ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนาบารมี " มีหลักในการดำเนินชีวิต 
จุดที 4 วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร วัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช วัดบางว้าใหญ่อยู่ในพระอุปถัมภ์ของเจ้านายวังหลัง คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี (สา) พระเชษฐภคินีของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและเป็นพระชนนีของกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ทรงมีตำหนักที่ประทับอยู่ติดกับวัด ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดร่วมกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้ขุดพบระฆังลูกหนึ่ง ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดบางว้าใหญ่ 5 ลูก จากนั้นได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดระฆังโฆสิตาราม” นอกจากเป็นเพราะขุดพบระฆังที่วัดนี้และเพื่อฟื้นฟูแบบแผนครั้งกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดชื่อวัดระฆังเช่นกัน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ “วัดระฆังโฆสิตาราม” เป็น “วัดราชคัณฑิยาราม” (คัณฑิ แปลว่าระฆัง) แต่ไม่มีคนนิยมเรียกชื่อนี้ ยังคงเรียกว่าวัดระฆังต่อมา
คติ มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี 
สักการะ พระประธานยิ้มรับฟ้า เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสำริด ปางสมาธิ 
สีกการะถวายดาบพระเจ้าตากสิน ณ พระตำหนักแดง สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้สันนิษฐานไว้ว่า น่าจะเคยเป็นที่ประทับทรงกรรมฐาน ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมาก่อน
จุดที่ 5 วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดแห่งนี้สร้างขึ้นมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ โดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร)
คติ โชคดีมีชัยปลอดภัยตลอดปี มีเพือนที่ดี กัลยาณมิตรที่ดี 
พระประธานสำหรับพระวิหารหลวง คือ หลวงพ่อโตหรือพระพุทธไตรรัตนนายก 
ป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ
หลวงพ่อโตเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงโดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน เรียกชื่อแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง



จุดที่ 6 วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหารพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร ๑ ใน ๖ ของไทย และเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของไทย คือ มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร.)
ใน พ.ศ. 2439 โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของ
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (รัชกาลที่ 10 ) 
ในการบูรณะวัดมหาธาตุและพระราชทานนามว่า “วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์”


จุดที่ 7 วัดชนะสงคราม โดยภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน "พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชษฐ์ มเหธิศักดิ์ ปูชะนียชยันตะโคดบรมศาสนา อนาวรญาณ"
คติ ชัยชนะเหนืออุปสรรคทั้งปวง 
จุดที่ 8 เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ 
พระพรหม (พระผู้สร้าง) ซึ่งตั้งอยู่กลางบ่อน้ำ สร้างขึ้นเมื่อ พุทธศักราช 2515
คติ เพือความสำเร็จ 
จุดที่ 9วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
คติความเชื่อ วิสัยทัศน์กว้างไกล มีสติปัญญาดี 
วันนี้อิ่มบุญ อิ่มใจ รถไม่ติดเพราะเป็นวันที่ 1 มค ยกเว้นพระราชพิธีเข้าเฝ้่าพระบรมโกศ และเป็นวันหยุดยาวคนยังออกต่างจังหวัด เป็นอีกวีนที่สุขใจ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น