วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2560

5 สิ่งผิดพลาดที่พบมากที่สุดเมื่อไปท่องเที่ยว

เชื่อว่าเวลาไปท่องเที่ยว ทุกคนก็อยากมีความสุขและสนุกที่สุด ให้คุ้มกับเงินเป็นหมื่นๆที่เสียไป แต่เคยได้ยินกฎของเมอร์ฟีไหมที่ว่า “Whatever can go wrong, will go wrong” อะไรก็ตามที่แม้วางแผนมาดีขนาดไหน เตรียมตัวมาขนาดไหน ก็สามารถผิดพลาดได้ทั้งนั้น วันนี้เรามาดู 5 ความผิดพลาดที่พบมากที่สุดในการท่องเที่ยว พร้อมวิธีป้องกันและแก้ไข เป็นความรู้ประดับบารมีนักท่องเที่ยวมือสมัครเล่นและมือโปรกันดีกว่า
photo:http://www.bbc.com/

กระเป๋าหาย!

ความผิดพลาดอันดับแรกๆที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกทริป เมื่อคุณเดินทางถึงที่หมายโดยปลอดภัย ไปรอรับกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่องไว้ด้วยความตื่นเต้นกับการเดินทางครั้งใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น รอแล้วรอเล่าจนกระเป๋าถูกเอาไปจนเกลี้ยงสายพานก็ยังหากุชชี่ใบสีแดงแรงฤทธิ์ของคุณไม่เจอ?!? เสื้อผ้า อุปกรณ์กันหนาว ข้าวของมีค่าอะไรก็อยู่ในนั้นหมด แล้วฉันจะใส่อะไรมิทราบยะ!

จะทำยังไงดี?:

  • สงบสติอารมณ์ พยายามทำตัวเป็นผู้ดีมีเหตุผลมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แม้ว่าคุณอยากจะวีน เหวี่ยง ให้สนามบินระเบิดมากแค่ไหนก็ตาม
  • อย่าเพิ่งออกจากสนามบิน ไปที่เคาน์เตอร์ของสายการบินและแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีที่เป็นไปได้
  • ต่อรองเพื่อสิ่งที่คุณควรจะได้ ความจริงคือไม่ใช่ทุกสายการบินจะชดใช้ค่าเสียหายให้คุณแม้ว่ามันนั่นแหละที่เป็นคนทำหาย! (อย่าใส่อารมณ์ ใจเย็นๆไว้) ดังนั้นศึกษากฎระเบียบของสายการบินที่คุณจะบินให้ดี ใช้ทุกช่องทางกดดันให้สายการบินชดใช้ให้คุณอย่างเหมาะสม ขั้นตอนนี้ขอให้ใช้คำพูดให้เหมาะสมอย่าหยาบคายด้วยแรงอารมณ์นะจ้ะ

ป้องกันไว้ก่อน:

  • ไม่ต้องเอาอะไรไปมาก บางทริปแค่ 3-4 วันเอาของไปแค่เป้ใบย่อมๆก็พอ เสื้อผ้าชิ้นไหนใส่ซ้ำได้ก็ใส่ ไม่ต้องเสียเงินค่าโหลดกระเป๋าแถมตัดความเสี่ยงเรื่องนี้ไปโดยปริยาย
  • พกเสื้อผ้าสำรองไว้กับตัวอย่างน้อย 1 ชุด ปกติถ้าสายการบินหากระเป๋าเราเจอ เค้าจะส่งตามมา 1-2 วันให้หลัง ดังนั้นระหว่างนี้ ถ้าไม่อยากตัวเน่าก็ควรพกชุดเปลี่ยนไว้ในกระเป๋าที่เป็น carry on แก้ขัดไปก่อนได้ ส่วนใครที่ไปเมืองหนาวแนะนำให้เอาเสื้อกันหนาวขึ้นเครื่อง อย่างน้อยจะได้ไม่แข็งตายหรือเสียเงินซื้อเสื้อกันหนาวแสนแพงใหม่ก่อนที่กระเป๋าที่หายจะถูกส่งมา
  • พกเอกสารสำคัญและข้าวของมีค่าไว้กับตัว พาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน เอกสารประกันการเดินทาง บัตรเครดิต ยา แว่นตา คอนแทคเลนส์ แหวนเพชรราคาแพง ฯลฯ เหล่านี้ต้องติดตัวไว้เสมอ
  • ถ่ายรูปของในกระเป๋าไว้ เวลาไปแจ้งของหายพวกสายการบินชอบถามว่ามีอะไรอยู่ข้างใน อะนี่ แกเอาไปดูซ้า
  • ซื้อประกันการเดินทาง ถ้ามีการขึ้นเครื่องหลายๆต่อที่ต้องซื้อด่วน อย่าลืมดูว่ามีคุ้มครองเรื่องนี้หรือเปล่า หลายๆที่จะชดใช้ค่าเสื้อผ้าวันแรกของเราด้วย 
  • ตกเครื่อง!

    อาจจะเป็นเพราะเที่ยวบินแรกของคุณดันดีเลย์ รถติด รถไฟฟ้าเสีย หลับเพลิน หรืออะไรก็ตามแต่ แต่พอกระเสือกกระสนมาถึงสนามบิน เที่ยวบินที่คุณจองไว้ได้โบยบินออกไปแล้ว ไม่นะ!

    จะทำยังไงดี?:

    • กรณีไปต่อเครื่องไม่ทัน ขึ้นอยู่กับว่าเป็นสายการบินเดียวกันหรือเปล่า ถ้าใช่ นั่นเป็นปัญหาของทางสายการบินเองที่จะหาเที่ยวบินต่อไปให้กับคุณให้เร็วที่สุด หน้าที่ของคุณมีอย่างเดียวคือทำตัวพูดรู้เรื่อง เจรจาอย่างใจเย็น ไม่วีนเหวี่ยง ใครๆก็อยากให้ความช่วยเหลือ
    • เปลี่ยนตั๋ว เจรจากับเจ้าหน้าที่ของสายการบินขอเปลี่ยนตั๋วอย่างมีสติ แน่นอนว่าต้องมีค่าเปลี่ยนตั๋ว แต่ก็ดีกว่าค้างเติ่งอยู่ที่สนามบินเป็นวันๆละนะ

    ป้องกันไว้ก่อน:

    • ไม่จองตั๋วเครื่องบินต่อกันกระชั้นเกินไป อย่างน้อยมี 2 ชั่วโมงสำหรับการเปลี่ยนเครื่อง รอนิดหน่อย ดีกว่าตกเครื่องแล้วต้องเสียทั้งเวลาทั้งเงินเน้อ
    • เผื่อเวลาไว้บ้าง หลายๆเมืองขึ้นชื่อเรื่องรถติด เช่น กรุงจาการ์ต้า กรุงมะนิลา เป็นต้น ถ้าคุณบังเอิญเดินทางจากเมืองเหล่านั้น ควรจะเผื่อเวลาไว้เยอะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะมาถึงสนามบินได้ทันเวลา
    • ถูกล้วงกระเป๋า!

      โจรขโมยแอบอยู่ทุกหลืบ ทุกมุมเมือง ไม่ว่าเราจะไปที่ไหนก็ตาม รู้ตัวอีกครั้ง กระเป๋าคุณอาจถูกกรีดเป็นทางยาว เงินและเอกสารสำคัญหายหมดเกลี้ยงก็เป็นได้

      จะทำยังไงดี?:

      • แจ้งตำรวจท้องถิ่น ซึ่งอาจจะไม่ทำอะไรเลย (เพราะเจอเคสเหล่านี้ประจำ) แต่ทำไปเถอะ ยิ่งถ้าคุณซื้อประกันการเดินทางไป ใบแจ้งความคือสิ่งแรกที่บริษัทประกันจะถามถึง
      • โทรแจ้งบริษัทประกัน รีบโทรแจ้งให้เรียบร้อย เรื่องจะได้เดินเร็วขึ้น และเราจะได้รู้ว่าต้องทำอะไรต่อ
      • ติดต่อสถานฑูตไทยประจำประเทศนั้นๆ จำเป็นกรณีพาสปอร์ตหาย และอาจจะช่วยคุณดำเนินการเรื่องยกเลิกบัตรเครดิตต่างๆได้

      ป้องกันไว้ก่อน:

      • ใช้กระเป๋าซ่อนเงิน (money belt) โอเค เข้าใจว่ามันโค-ตะ-ระจะเกะกะและน่ารำคาญ หยิบเงินแต่ละทีก็ต้องมาลำบากล้วงกันอีก แต่ใช้เถอะ คุณยังหยิบเงินได้ยาก ขโมยก็ยิ่งหยิบของคุณยากกว่า
      • สแกนหน้าพาสปอร์ตและบัตรเครดิตเก็บไว้ จะอีเมลหาตัวเอง เก็บขึ้นพวก Dropbox หรือ Google Drive อะไรก็ได้
      • อย่าทำตัวเด่น อันนี้รวมถึงการสะพายกล้องราคาแพง ใส่นาฬิกาเรือนแสน แบกเป้ใบเขื่อง แต่งตัวแบบที่หัวขโมยมองปราดเดียวแล้วรู้ทันทีว่าคุณเป็นนักท่องเที่ยวเอ๋อๆคนหนึ่งที่พร้อมให้มันปล้นเอา
      • ไปในสถานที่ที่ปลอดภัย มีคนพลุกพล่าน
      • ป่วย บาดเจ็บหรือเกิดอุบัติเหตุ!

        คุณไปปีนเขาที่เนปาล ระหว่างนั้นเกิดอาการแพ้ความสูง (Altitude Sickness) มีเหตุต้องใช้เฮลิคอปเตอร์เคลื่อนย้ายคุณสู่พื้นดินกระทันหัน หรือระหว่างที่คุณกำลังเล่นสกีอย่างเมามันอยู่ที่ญี่ปุ่นนั้น เกิดพลาดท่าล้มขาหัก ถูกหามเป็นโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือคุณอาจไม่สบายเพราะอาการเปลี่ยนก็เป็นได้ อุบัติเหตุหรือความเจ็บป่วยเกิดขึ้นได้กับทุกคนแม้จะระวังตัวอย่างดีแล้วก็ตาม

        จะทำยังไงดี?:

        • ถ้าเป็นแค่เจ็บป่วยธรรมดา เข้าร้านขายยาก็พอ ไม่ต้องถึงกับไปโรงพยาบาลให้ยุ่งยากวุ่นวาย
        • แต่ถ้าจำเป็นก็ไปโรงพยาบาลเถอะ อย่าปล่อยให้เป็นหนักถึงมันจะแพง แม้ว่าคุณจะไม่ได้ซื้อประกันการเดินทางไว้เลย
        • ตรวจสอบเงื่อนไขของประกันการเดินทางที่คุณซื้อ กรณีที่คุณซื้อประกัน ให้ตรวจสอบก่อนว่าอะไรคุ้มครองหรือไม่คุ้มครองและใช้มันซะ

        ป้องกันไว้ก่อน:

        • ทำตัวให้แข็งแรงก่อนการเดินทาง ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ
        • ซื้อประกันการเดินทาง ถ้ารู้ว่าตัวเองจะผจญภัยที่ทำกิจกรรมอะไรที่อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ โปรดอย่าเสียดายเงินและซื้อประกันการเดินทางซะ
        • เตรียมยาสามัญประจำบ้านไป พวกยาแก้แพ้ ยาแก้ปวดหัว แก้ท้องร่วง ท้องอืด เพราะเอาเข้าจริงบางประเทศต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้นถึงจะซื้อได้
        Capture

        ภัยธรรมชาติ!

        ครั้งหนึ่งในชีวิตการเดินทางของผู้เขียน ได้ไปติดอยู่ที่เมืองเล็กๆเมืองหนึ่งตุรกีด้วยเหตุพายุหิมะถล่ม ทำให้ทุกเที่ยวบินถูกยกเลิก ต้องติดอยู่ที่สนามบินเป็นระยะเวลานานจนในที่สุดก็หาตั๋วเครื่องบินใหม่ได้ ซึ่งราคาแพงกว่าตั๋วเดิมที่ได้ refund มาถึง 6 เท่า! ตอนนั้นโชคดีว่าซื้อประกันการเดินทางไปจึงสามารถเคลมคืนได้หมด

        จะทำยังไงดี?:

        • ตั้งสติ สติคือทุกอย่าง หากเจอภัยธรรมชาติอื่นๆที่แย่ยิ่งกว่าพายุหิมะ เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เราต้องรู้ว่าจะเอาตัวรอดได้อย่างไร ดังนั้นควรศึกษาภัยธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นในที่ๆเราจะไปและการเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาตินั้นๆด้วย
        • ส่งข่าวกับทางบ้านด้วย อย่าลืมบอกคนที่บ้านว่าคุณยังอยู่ดี ทางนู้นอาจเป็นห่วงจนแทบจะบินมาหาคุณด้วยตัวเอง
        • ตรวจสอบเงื่อนไขของสายการบินและประกันการเดินทางที่คุณซื้อ ดูว่ากรณีไหนที่คุ้มครองหรือไม่คุ้มครอง

        ป้องกันไว้ก่อน:

        • ไม่ไปสถานที่นั้นในช่วงที่อาจเกิดภัยธรรมชาติ ถ้าคุณรู้ก็หลีกเลี่ยงซะ
        • ซื้อประกันการเดินทาง แต่ต้องตรวจสอบก่อนว่าคุ้มครองข้อนี้หรือไม่           
        • Cr.บทความโดย 
        • นักเดินทางทุกท่านสามารถจองประกันคุ้มครองเพิ่มเติมได้กับเรา @tourandservice 
        • www.tourandservice.com 
        • พบกับข้อมูลท่องเที่ยว สาระเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยกับเราได้ที่
        •  @tourandservice click
          https://line.me/R/ti/p/%40tourandservice
          follow us 
          facebook https://www.facebook.com/tourandservice/
          twitter https://twitter.com/tourandservice

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2560

ผลสำรวจ mastercard 2016

ผลสำรวจmastercard ที่สุดในโลก. 















วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2560

ไหว้พระ 9 ศาสนสถาน รับปีระกา

วันที่ 1 มค 60 เปิดปีใหม่ปีระกา โมพาคุณแม่ไปไหว้พระกราบสักการะเพื่อสิริมงคลรับปีระกา 
เมือครั้งปี 2556 ได้รับงานไหว้พระ 9 วัด รุ่นละ 100 คน 4 รุ่นจากระยอง โชคดีตลอดปี 
ปีนี้เลยถือโอกาสไหว้แต่ต้นปี แต่จำเป็นต้องเลือกวัดและศาสนสถานใหม่ เนื่องจากการจราจรปิดหลายเส้นทางไม่อำนวย แต่ก็ไม่ผิดหวัง ได้ครบทุกศาสนา จีน พุทธ พราหมณ์ 

จุดแรก  วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดสระเกศ)  เป็นวัดโบราณในสมัยอยุธยา เดิมเรียกว่า วัดสะแก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา เนื่องจากเคยประทับทำพิธีพระกระยาสนานเมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติใน พ.ศ. ๒๓๒๕

ในวัดจุดศูนย์กลางเลขที่ ศูนย์ กรมแผนที่ทหาร เป็นสะดือเมือง เป็นมงคล สะดือเมือง

มีแผ่นดวง และยันต์มหาลาภ สายสิญจน์ 
และปฎิทินมงคล ภาพในหลวงกับพระสังฆราชเสด็จเป็นการส่วนพระองค์  ณ วัดสระเกศ 

หลวงพ่อได้ให้เราผูกแผ่นดวงไว้ที่ศรีษะ และเดินขึ้นภูเขาทอง(บรมบรรพต) ร้อยกว่าขั้น โดยระหว่างทางก็ตีระฆังขึ้น ไป เอาดวงฝากบรรจุไว้ที่สะดือเมือง ชีวิตของเราจะได้ไม่ตกต่ำตามความเชื่อ เราได้ถวายผ้าไตร และเดินรอบเจดีย์ 3 รอบ  
หลังจากนั้นเข้าแถวลงไปชั้นล่าง เพื่อสักการะ  พระมหาเศรษฐีนวโกฎและเจดีย์น้อยพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุพระบรมสาริริกธาตุซึ่งได้จากกรุงกบิลพัสดุ์ สมัย ร.5 
ขณะเดินทางลง แวะสักการะหลวงพ่อโชคดี
จุดที่ีสอง  วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว ศูนย์กลางความศรัทธาไทย เป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เช่นเดียวกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยา และมีพระราชประสงค์ให้เป็นที่ประดิษฐาน "พระแก้วมรกต" รวมถึงเป็นสถานที่ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล โดยเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ เพราะมีแต่ส่วนพุทธาวาสไม่มีส่วนสังฆาวาส
พระแก้วมรกต ประดิษฐานในบุษบกทองคำ 
ถวายแจกันดอกไม้ บัวหลวง และอธิษฐานจิต และออกมาพรมน้ำมนต์ 
คติ  แก้วแหวน เงินทองไหลมาเทมาตลอดปี "
เห็นเด็กๆ น่ารักใส่ชุดไทยจิตรลดาอดขอถ่ายรูปไม่ได้ น้องๆ ร่าเริงพร้อมบอกกับเราว่า หนูชื่อ party ค่ะ 
จุดที่ 3 ศาลหลักเมืองสักการะหลักเมือง ไหว้พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เจ้าพ่อเจตคุปต์ พระเทพไชยศรี เจ้าพ่อหอกลอง ประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ ตามธรรมเนียมเพื่อความเป็นสิริมงคล
 คติ " ไหว้หลักเมือง ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนาบารมี " มีหลักในการดำเนินชีวิต 
จุดที 4 วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร วัดแห่งนี้เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช วัดบางว้าใหญ่อยู่ในพระอุปถัมภ์ของเจ้านายวังหลัง คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี (สา) พระเชษฐภคินีของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและเป็นพระชนนีของกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ทรงมีตำหนักที่ประทับอยู่ติดกับวัด ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดร่วมกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้ขุดพบระฆังลูกหนึ่ง ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดบางว้าใหญ่ 5 ลูก จากนั้นได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดระฆังโฆสิตาราม” นอกจากเป็นเพราะขุดพบระฆังที่วัดนี้และเพื่อฟื้นฟูแบบแผนครั้งกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดชื่อวัดระฆังเช่นกัน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ “วัดระฆังโฆสิตาราม” เป็น “วัดราชคัณฑิยาราม” (คัณฑิ แปลว่าระฆัง) แต่ไม่มีคนนิยมเรียกชื่อนี้ ยังคงเรียกว่าวัดระฆังต่อมา
คติ มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี 
สักการะ พระประธานยิ้มรับฟ้า เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสำริด ปางสมาธิ 
สีกการะถวายดาบพระเจ้าตากสิน ณ พระตำหนักแดง สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้สันนิษฐานไว้ว่า น่าจะเคยเป็นที่ประทับทรงกรรมฐาน ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมาก่อน
จุดที่ 5 วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดแห่งนี้สร้างขึ้นมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ โดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร)
คติ โชคดีมีชัยปลอดภัยตลอดปี มีเพือนที่ดี กัลยาณมิตรที่ดี 
พระประธานสำหรับพระวิหารหลวง คือ หลวงพ่อโตหรือพระพุทธไตรรัตนนายก 
ป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ
หลวงพ่อโตเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูงโดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน เรียกชื่อแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง



จุดที่ 6 วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหารพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร ๑ ใน ๖ ของไทย และเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของไทย คือ มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร.)
ใน พ.ศ. 2439 โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของ
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (รัชกาลที่ 10 ) 
ในการบูรณะวัดมหาธาตุและพระราชทานนามว่า “วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์”


จุดที่ 7 วัดชนะสงคราม โดยภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน "พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชษฐ์ มเหธิศักดิ์ ปูชะนียชยันตะโคดบรมศาสนา อนาวรญาณ"
คติ ชัยชนะเหนืออุปสรรคทั้งปวง 
จุดที่ 8 เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ 
พระพรหม (พระผู้สร้าง) ซึ่งตั้งอยู่กลางบ่อน้ำ สร้างขึ้นเมื่อ พุทธศักราช 2515
คติ เพือความสำเร็จ 
จุดที่ 9วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
คติความเชื่อ วิสัยทัศน์กว้างไกล มีสติปัญญาดี 
วันนี้อิ่มบุญ อิ่มใจ รถไม่ติดเพราะเป็นวันที่ 1 มค ยกเว้นพระราชพิธีเข้าเฝ้่าพระบรมโกศ และเป็นวันหยุดยาวคนยังออกต่างจังหวัด เป็นอีกวีนที่สุขใจ 

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2560

สักการะพระเจ้าตาก วันพระเจ้าตากสิน 28 ธค 59

ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้สักการะวันของพระองค์ท่านที่วัดอรุณ
พระบรมรูปพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประดิษฐานอยู่ที่โบสถ์น้อย 
ในวัดอรุณราชวราราม  เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ โบสถ์นี้หันหน้าออกทางแม่น้ำเจ้าพระยา

สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 พระนามเดิมว่า สิน ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในสมัยอาณาจักรธนบุรี ทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310 เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 เมื่อมีพระชนมายุได้ 48 พรรษา 
รวมสิริดำรงราชสมบัติ 15 ปี /จากวิกิพีเดีย สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
หากใครได้มีโอกาสสักการะบูชาป้ายสถิตพระวิญญาณ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เท่ากับว่าจะได้มีโอกาสแสดงความกตัญญูต่อพระองค์ท่านที่บรรพบุรุษกู้ชาติไทย ทำให้เราทุกคนมีแผ่นดินไทยที่สงบร่มเย็นอยู่ได้อย่างสุขสบายเช่นทุกวันนี้ และตามคติความเชื่อกันว่าการเซ่นไหว้บูชาบรรพบุรุษในวันสำคัญ ๆ จะทำให้ผู้บูชาได้รับอานิสงส์จากบรรพบุรุษผู้มีบุญญาธิการอันยิ่งใหญ่ ให้คุ้มครองทุกชีวิตให้
พ้นภัย และเสริมผู้สักการบูชาให้มีจิตใจเข้มแข็ง

พระแท่นบรรทมของพระเจ้ากรุงธนบุรี ทำจากไม้สักทอง 
สร้างเมื่อ พ.ศ  2310 หนา 16 เซนฯ กว้าง 170 เซนฯ
  ยาว 306 เซนฯ สูง 69 เซนฯ มีความเชื่อว่า หากได้ลอดพระแท่นของพระองค์ 
จะเป็นการล้างอาถรรพ์ในสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ และ เสริมดวง เสริมบารมี ให้ชีวิตมีความสุข รุ่งเรือง
เสร็จจากไหว้พระองค์ท่านที่โบสถ์น้อยก็ได้แวะไปที่พระราชวังเดิม 
พระราชวังกรุงธนบุรี หรือ พระราชวังเดิม เป็นพระราชวังหลวงของ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ ในเขตที่เคยเป็นที่ตั้งของ ป้อมวิไชยเยนทร์ ที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตำแหน่งของพระราชวังนี้เป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ สามารถสังเกตการณ์ได้ในระยะไกล อีกทั้งยังใกล้กับเส้นทางคมนาคม
และเส้นทางการเดินทัพที่สำคัญด้วย
เดินเข้าไปสักการะศาลพระเจ้าตากสินใน พระราชวังเดิม




จอมทัพราชนาวี 
จบทริปสักการะพระเจ้าตากสิน ด้วยความประทับใจ ขอบคุณข้อมูลจาก wikipedia 

สักการะบวงสรวงพระเจ้าตากสิน@วัดอรุณ 28 ธค 59

ขอบคุณ คุณภณ สกุล ณ นคร ที่เชิญไปร่วมงาน ปกติจะไหว้พระองค์ท่านที่บ้าน ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้มีโอกาสไหว้ท่านที่วัดอรุณ ในวันสำคัญ ครบรอบปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ 28 ธันวาคม ของทุกปี
ที่จะมีงานในหลายๆ ที่ บรรยากาศในงานอบอุ่นมาก ปีหน้าไปใหม่ค่ะ